แถลงการณ์ของนายโจเซพ บอเรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรป เนื่องในวันต่อต้านการทรมานสากล
ไม่มีเหตุผลใดในศตวรรษที่ 21 ที่จะทำให้เรายอมรับการทรมานมนุษย์ว่าเป็นเรื่องปกติได้ เนื่องในวันต่อต้านการทรมานสากล (International Day in Support of Victims of Torture) สหภาพยุโรปขอแสดงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะต่อสู้กับการทรมานในทุกหนแห่งของโลก ไม่ว่าจะในรูปแบบ บริบท หรือสภาพแวดล้อมใด
มาตรการที่เข้มงวดต่างๆ และการล็อกดาวน์ในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 นั้น มีส่วนทำให้การละเมิดและการลิดรอนสิทธิมนุษยชนเพิ่มสูงขึ้นทั้งในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน การจับกุมและกักขังตามอำเภอใจ การปองร้ายหมายชีวิต ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างความบอบช้ำทางจิตใจให้แก่ผู้คนจำนวนมากทั้งสิ้น
การเคารพสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต้องเป็นหัวใจหลักของการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ทั่วโลกที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ แม้ว่าหลายประเทศกำลังพยายามที่จะลดจำนวนผู้ต้องขังในช่วงวิกฤตสาธารณสุขนี้ก็ตาม การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายทารุณในสถานที่คุมขังก็ยังไม่หมดสิ้นไป การสนับสนุนให้สภาพของแดนคุมขังและการปฏิบัติต่อผู้ถูกลิดรอนเสรีภาพเป็นไปอย่างสอดคล้องต่อมาตรฐานและพันธกรณีระหว่างประเทศจึงเป็นหัวข้อที่สำคัญหัวข้อหนึ่งของแผนปฏิบัติการสหภาพยุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ. 2563-2567 ซึ่งวางแนวทางให้แก่สหภาพยุโรปในการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและการธำรงคุณค่าทางประชาธิปไตยทั่วโลก
เราต้องไม่ปล่อยให้ผู้มีส่วนในการทรมานและการกระทำอื่นๆ ที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมมีโอกาสได้ลอยนวล การนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ ระบบยุติธรรมที่มีประสิทธิภาพ และการชดใช้ค่าเสียหายแก่เหยื่อล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง สหภาพยุโรปจะไม่รีรอที่จะกล่าวประณามการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมต่าง ๆ ในทุกภาคพื้นของโลก และสนับสนุนให้มีการสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงโดยอิสระไม่ว่าจะเป็นที่ใด การรวบรวมหลักฐานและการบันทึกการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม การนำผู้กระทำผิดมารับโทษและให้ความยุติธรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบ เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะทำให้สิทธิของเหยื่อได้รับการปกป้อง
การออกระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการคว่ำบาตรองค์กรและบุคคลผู้มีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลกของสหภาพยุโรป คือการส่งสัญญาณว่าสหภาพยุโรปมีความมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชน ด้วยการใช้มาตรการที่เด็ดขาดและจับต้องได้ต่อผู้ที่สั่งให้การละเมิดและการเหยียบย่ำสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เช่น การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายต่างๆ เกิดขึ้น
เราจะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการแก้ปัญหานี้ ไม่ว่าจะในระดับทวิภาคี ภูมิภาค หรือพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวทีสหประชาชาติ สภายุโรป และศาลอาญาระหว่างประเทศ รวมทั้งให้การสนับสนุนต่อองค์กรภาคประชาสังคมและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้ทุ่มเทงบประมาณกว่า 100 ล้านยูโรเพื่อต่อต้านการทรมาน เราจะยังคงมีส่วนร่วมในกิจการต่างๆ เพื่อต่อต้านการทรมานและส่งเสริมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต่อไป
แนวคิดริเริ่มต่างๆ เช่น หลักการสำหรับการสอบปากคำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการสืบสวนและการรวบรวมข้อมูล ให้แนวทางในการจัดหาข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้โดยเคารพในสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีของผู้ต้องหาในเวลาดียวกัน เพื่อให้การควบคุมตัวผู้ต้องหาโดยเจ้าพนักงานในชั่วโมงแรกๆ ของการสอบสวนนั้นเป็นไปอย่างสอดคล้องกับมาตรการทางกฎหมายและขั้นตอนในการสอบปากคำที่ไม่ละเมิดสิทธิ
ขณะนี้ ความจำเป็นที่นานาประเทศทั่วโลกจะต้องร่วมมือกันอย่างขันแข็งและมีประสิทธิภาพ เพื่อควบคุมการส่งออกสินค้าที่ใช้สำหรับลงการโทษประหารชีวิต การทรมาน และการปฏิบัติที่โหดร้ายทารุณต่างๆ มีมากกว่าในอดีต สหภาพยุโรปสนับสนุนให้รัฐบาลทุกประเทศร่วมกันเพิ่มพูนมาตรฐานสากลในเรื่องนี้ด้วยการเข้าเป็นพันธมิตรเพื่อการค้าที่ไม่ก่อให้เกิดการทรมาน (Alliance for Torture-Free Trade)
การสรรค์สร้างโลกนี้ให้เป็นโลกที่ไม่มีใครต้องตกเป็นเหยื่อของการทรมานถือเป็นความท้าทายระดับโลก แต่มันจะเกิดขึ้นได้แน่หากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างไม่ย่อท้อ และมันเป็นวิธีเดียวที่เราจะทำได้เพื่อชดเชยให้แก่เหยื่อของการทรมานทุกคนและครอบครัวของพวกเขา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ
นาบิลา มัสราลลี่
สำนักโฆษกของผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง
+32 (0) 2 29 88093
+32 (0) 460 79 52 44
ฮาเวียร์ ซิเฟร ควัทเทรโซลส์
เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวสาร กระทรวงการต่างประเทศแห่งสหภาพยุโรป
+32 2 297 35 82
+32 460 75 51 56